นาฏศิลป์ไทย
ธรรมชาตินาฏศิลป์ไทย
นาฏศิลป์ไทย หมายถึงการฟ้อนรำของไทยที่มีลีลาท่ารำ การแต่งกาย และวิธีการแสดงที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย ซึ่งต้องใช้กิริยาท่าทางการฟ้อนรำบ่งบอกความหมายด้วยลีลาท่ารำที่ถูกหลักวิชานาฏศิลป์ไทย ดังนั้นธรรมชาติของนาฏศิลป์ไทยคือการปฏิบัติท่ารำที่สวยงาม ถูกต้องตามหลักวิชานาฏศิลป์ไทย ซึ่งต้องผ่านกระบวนการฝึกหัดจากครูสู่ศิษย์และต้องฝึกหัดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา ผลจากการฝึกหัดจะมีประโยชน์ต่อผู้เรียนในหลายด้าน ดังนี้
1. ความเชื่อมั่นในตนเองและกล้าแสดงออก ดังได้กล่าวข้างต้นแล้วว่าธรรมชาติของนาฏศิลป์ไทย คือการฝึกทักษะการรำอย่างต่อเนื่อง และถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อมีการฝึกหัดก็ต้องมีการลงมือฝึกปฏิบัติทักษะด้วยตนเอง การฝึกทักษะอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องเป็นการฝึกความกล้าแสดงออกให้กับผู้เรียน และเมื่อผู้เรียนกล้าทำแล้วในกระบวนการเรียนการสอนจะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ได้ทำกิจกรรมร่วมกันเป็นการฝึกให้กล้าแสดงความคิดเห็น กล้าคิดกล้าทำด้วยความมั่นใจมากขึ้น และเมื่อไปแสดงนาฏศิลป์ไทยในที่ใดก็จะแสดงออกด้วยความมั่นใจ และภาคภูมิใจ
2. ความอ่อนน้อมถ่อมตน การเรียนการสอนนาฏศิลป์ไทย จะเป็นการฝึกหัดอย่างต่อเนื่องยาวนานในระบบการเรียนการสอน เป็นการเลียนแบบครูผู้สอนโดยตรง ครูผู้สอนจะคอยดูแลจัดท่ารำให้สวยงาม ดังนั้นระหว่างผู้เรียนและผู้สอนจะมีความสัมพันธ์กันใกล้ชิด ผู้สอนจะคอยอบรมบ่มนิสัย ใช้ความเมตตากรุณาแก่ศิษย์ ศิษย์ก็จะตอบแทนโดยการตั้งใจเรียน รับใช้ครูอาจารย์ด้วยความเต็มใจ ระบบการเรียนการสอนแบบนี้เป็นการกล่อมเกลาให้ผู้เรียนมีความอ่อนน้อมเคารพผู้ใหญ่ และเป็นคุณลักษณะที่ดีปลูกฝังติดตัวผู้เรียนไป ในขณะเดียวกัน ผู้เรียนจะรำสวยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ และการฝึกหัดที่ต้องผ่านกระบวนการกล่อมเกลา และแก้ไขท่ารำให้สวยงาม ดังนั้นครูผู้สอนจึงมีส่วนอย่างมากในการที่จะช่วยให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จ ผู้เรียนจึงมีความเคารพ ครูผู้สอน และจะอ่อนน้อมต่อครูผู้สอนด้วยระลึกถึงบุญคุณครู จึงกล่าวได้ว่ากิจกรรมการเรียนการสอนนาฏศิลป์จะช่วยปลูกฝังให้ผู้เรียนเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน และมีความอดทนต่อความเหน็ดเหนื่อยในการฝึก
3. เคารพผู้อาวุโส ในการเรียนการสอนวิชานาฏศิลป์ไทยจะช่วยปลูกฝังให้ผู้เรียนรู้จักเคารพผู้อาวุโสกว่า เนื่องจากระบบการเรียนการสอนจะต้องผ่านการฝึกหัด ใช้กระบวนการกลุ่มช่วยเหลือเพื่อนๆ ในกลุ่ม หรือเมื่อมีกิจกรรมการแสดงก็จะให้รุ่นพี่ช่วยดูแลรุ่นน้อง เช่น ช่วยฝึกซ้อมให้ แต่งตัวให้ ในลักษณะการทำงานแบบนี้รุ่นน้องจะใกล้ชิดกับรุ่นพี่ ขอคำปรึกษาและฝึกหัดรำกับรุ่นพี่ รุ่นพี่ก็จะช่วยดูแลและช่วยครูในการฝึกให้รุ่นน้อง เกิดระบบที่ดีในการเรียนการสอน รุ่นน้องก็จะเคารพรุ่นพี่ เมื่อพบกันก็จะไหว้ทำความเคารพและยอมรับซึ่งกันและกัน ซึ่งถือว่าเป็นวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันที่ดี และหากผู้เรียนสำเร็จไปแล้วก็จะได้นำไปใช้ในองค์กรต่าง ๆ ได้
4. กิริยามารยาทงดงาม ระบบการเรียนการสอนวิชานาฏศิลป์ไทยมีส่วนอย่างมากในการฝึกมารยาทไทย เริ่มตั้งแต่การแต่งกาย ผู้เรียนจะนุ่งผ้าโจงกระเบนในการเรียน ซึ่งเป็นวิธีการนุ่งผ้าที่อนุรักษ์ความเป็นไทยและเพื่อความสะดวกในการเรียน นอกจากนี้ในการเรียนการสอนผู้สอนจะฝึกมารยาทไทยในเรื่องการหมอบกราบ การไหว้ การนั่ง การเดิน การยืน การเดินผ่านผู้ใหญ่ ในขณะที่ผู้ใหญ่นั่งอยู่ก็จะย่อเข่าโน้มตัวลงมาด้วยกิริยาที่นุ่มนวลอ่อนช้อย การพูดจาด้วยวาจาที่ไพเราะอ่อนหวาน การที่ผู้ใหญ่นั่งอยู่จะมายืนค้ำไม่ได้ ควรนั่งคุกเข่าพูดคุยกับผู้ใหญ่ด้วยความเคารพ สิ่งนี้ผู้สอนได้ปลูกฝัง และฝึกให้ผู้เรียนเป็นประจำและย้ำเตือนเสมอ ดังนั้นการเรียนนาฏศิลป์จะเป็นการส่งเสริมจริยธรรมไปด้วย
5. มีบุคลิกภาพที่ดี การฝึกหัดนาฏศิลป์ไทยผู้เรียนจะเริ่มตั้งแต่การฝึกหัดเบื้องต้น ดัดมือ ดัดลำแขน ดัดตน การทรงตัวนั่ง ยืน เดิน การเคลื่อนไหวร่างกายด้วยลีลาที่งดงาม จากการฝึกหัดผู้สอนจะจัดท่ารำให้สวยงาม ไหล่ห่อก็จะถูกดัดไหล่ให้ตรง เป็นต้น วิธีการฝึกหัดดังกล่าวจะช่วยให้ผู้เรียนมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น มีรูปร่างสวยงาม สมส่วน จะเดิน จะพูดจาก็ดูดีมีมารยาทเป็นที่ยอมรับของสังคม
6. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ผู้เรียนจะได้รับการปลูกฝังในด้านมนุษยสัมพันธ์กับบุคคลฝ่ายต่าง ๆ เนื่องจากกิจกรรมทางนาฏศิลป์จะต้องมีองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น ดนตรี ฉาก เวที การแต่งกาย การฟ้อนรำ การประชาสัมพันธ์ที่ดีกับฝ่ายต่าง ๆ เช่น การเขียนบทกลอนมาใช้เป็นบทร้องประกอบการแสดง ผู้เรียนจะต้องไปขอความอนุเคราะห์จากอาจารย์ภาษาไทย ตรวจดูความสละสลวยของการใช้ถ้อยคำและการสัมผัสของคำในบทกลอนที่จะสื่อความหมายในโอกาสของงานนั้น ๆ แล้วนำบทมาฝึกหัด โดยขอความอนุเคราะห์จากครูนาฏศิลป์ตรวจสอบในท่ารำ และปรึกษาเรื่องการแต่งกาย นำบทมาปรึกษากับครูผู้สอนดนตรีให้บรรจุเพลงและขับร้องบรรเลงประกอบการแสดง จัดเวทีประกอบการแสดง ลักษณะการทำงานดังกล่าวเป็นการฝึกให้ผู้เรียนได้ใช้ความรู้ความสามารถและมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งจะได้รับความร่วมมือที่ดี งานจึงประสบความสำเร็จได้