มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก
5 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้ของ “มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก” ผู้ก่อตั้ง Facebook
1. ซัคเคอร์เบิร์กมีเพื่อนทั้งหมด 879 คนมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มีลิสต์เพื่อในหน้าเฟซบุ๊คของตัวเองถึง 879 คนโดยเปิดเผยที่อยู่อีเมล์ และเบอร์โทรศัพท์จริงในหน้าข้อมูลผู้ใช้บริการและเลือก Green Day และ Jay-Z เป็นศิลปินโปรด
ส่วนหนังสือที่เขาสนใจเป็นพิเศษก็คือ นิยายไซไฟอย่าง Ender's Game โดย ออร์สัน สก็อตต์การ์ดความสนใจด้านอื่นนอกจากนี้ก็คือ เรื่องการปฏิวัติ การละตัณหาและลัทธิจุลนิยม ซึ่งกล่าวถึงศิลปะของความเรียบง่าย
2. เขามีฉายาว่า “ซัค เดอะ โรบอท”'ซัค' คือชื่อสั้น ๆ ที่เพื่อนของซัคเคอร์เบิร์กชอบเรียกเขาถูกมองว่าเป็น 'พวกไม่ค่อยชอบสุงสิงกับชาวบ้าน ขี้อาย ขี้ขลาด' มีคนเคยบ่นว่าซัคเคอร์เบิร์กเหมือนหุ่นยนต์ 'บางทีเขาชอบพูดเหมือนโปรแกรม Instant Message พูดห้วน ๆ เรียบ ๆ เป็นโทนเดียวกันหมด'
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คนแปลก ๆ อย่างซัคเคอร์เบิร์กก็ยังมีข้อดีอยู่บ้างโดยเพื่อนของเขาคนหนึ่งบอกว่า 'เขาเป็นผู้ฟังที่ตั้งใจฟังมาก ๆ '
3. เขาบอกปัดข้อเสนอของบริษัท AOL และ Microsoftซัคเคอร์เบิร์กเคยออกแบบระบบซอฟท์แวร์ที่ชื่อ ไซแนปส์ ซึ่งไม่ได้แตกต่างไปจาก แพนโดรา ที่มีบริการฟังวิทยุทางอินเตอร์เน็ตที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป หลังจากโปรแกรมไซแนปส์แพร่หลายในโลกอินเตอร์เน็ต และเรื่องไปถึงหูของ AOL และ Micrisoft สองบริษัทนี้ก็แสดงความสนใจ ที่จะจ้างซัคเคอร์เบิร์กขึ้นมาจนตัวสั่น แต่ซัคเคอร์เบิร์กก็ตอบปฏิเสธไปเสียเฉย ๆ และมุ่งหน้าไปเรียนต่อที่ฮาร์วาร์ด
4. เขาเคยบอกว่าพวกที่เล่นเฟซบุ๊ค เป็น 'พวกหน้าโง่'ซัคเคอร์เบิร์กเคยส่งข้อความให้เพื่อนสมัยที่เขายังอยู่ที่ฮาร์วาร์ดและได้กล่าวว่าพวกผู้ ใช้บริการเฟซบุ๊คก้ไม่ต่างอะไรกับพวกหน้าโง่ ซึ่งรายละเอียดนี้เปิดเผยโดยคนในซิลิกอนวัลเลย์เมื่อต้นปีนี้เอง โดยซีอีโอหนุ่มได้บอกว่าเขาเสียใจมากจริง ๆ ที่พิมพ์แบบนั้นออกไป 'ถ้าคุณเป็นถึงผู้สร้างระบบเครือข่ายบริการที่เป็นที่พึ่งของคนหลาย ๆ คน คุณก็ควรจะเป็นผู้ใหญ่พอสมควรแล้ว ถูกไหม? ผมว่าผมโตแล้ว และได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างแล้วล่ะ' ไรอัน เทท ตัวแทนจากเมืองวัลเลย์กล่าว แต่ถามว่าซัคเคอร์เบิร์กได้สำนึกสักนิดหรือเปล่า? คำตอบคือ 'สิ่งที่ผมพูดไปก็ชัดเจนแล้วนี่ ก็เห็นอยู่ว่าพวกเขาชอบละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวกันเป็นว่าเล่น'
5. ทำไมเฟซบุ๊คต้องเป็นสีฟ้า?การตกแต่งภายใจของบ้านซัคเคอร์เบิร์กมักใช้สีน้ำตาลอ่อนหรือไม่ก็สีฟ้า เว้นแต่ในครัวที่เขาใช้สีเหลือง แต่สีสันไม่ได้สำคัญกับซัคเคอร์เบิร์กเท่าใดนัก เพราะเขาตาบอดสี! ซึ่งเป็นประเภทที่แยกความแตกต่างระหว่างสีแดงกับสีเขียวไม่ได้ เขาจึงเลือกสีฟ้าเป็นสีโปรดเพราะ 'สีฟ้าเป็นสีแห่งความมั่งคั่งสำหรับผม ผมมองไปทางไหนก็เห็นแต่สีฟ้า'
หนุ่มอายุเพียง 26 ปี สามารถสร้างบริษัทบริการเครือข่ายสังคมอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้ใช้งานกว่า 500 ล้านคนทั่วโลก มีมูลค่าถึง 130,000 ล้านบาท หนุ่มคนนี้คือ ซีอีโอ หรือผู้บริหารสูงสุดของเฟซบุ๊ก ชื่อ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มาเป็นข่าวดังเร็ว ๆ นี้เอง พร้อมมีการเปิดตัวในหนังสือ ชื่อ ผลกระทบของเฟซบุ๊ก (The Face book Effect) ซึ่งเป็นเรื่องราวภายในเฟซ บุ๊กที่เชื่อมต่อกับโลกได้อย่างไร โดยมีผู้เขียนชื่อ เดวิด เคิร์กเพทริค
เรื่องราวของผู้บุกเบิก หรือ ซีอีโอ เฟซบุ๊ก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก นั้น มีทั้งดี ไม่ดี และมีเรื่องไม่น่าเหมาะสมก็เยอะ ปะปนกันไป ชีวิตจริงของมาร์ค เกิดที่ไวท์เพลนส์ นิวยอร์ก ในครอบครัวชาวยิว หัดเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่อยู่เกรด 6 หรือ ประถมศึกษาปีที่ 6 ชอบเขียน โปรแกรมเพื่อการสื่อสารและเล่นเกม ชอบเรียนภาษาลาติน เขาสามารถเขียนโปรแกรมเล่นเกมที่ชื่อ ริสก์ และเครื่องเล่นดนตรี ชื่อ ไซแนพส์ (Synapse) โดยใช้ความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ ตั้งแต่ยังไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัย บริษัทไมโครซอฟท์และเอโอแอล พยายามที่จะซื้อ ไซแนพส์ และรับ ซัคเคอร์เบิร์ก เข้าทำงาน แต่เขาตัดสินใจเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดก่อน
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เริ่มโครงการเฟซบุ๊กช่วงที่อยู่หอพักของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2547 ซึ่งได้ชื่อมาจากหนังสือชื่อ 'เฟซบุ๊ก' เป็นที่รวบรวมรายชื่อของเพื่อนเก่าที่ฟิลิปส์ เอ๊กสเตอร์ อะคาเดมี่ ซึ่งมีรูปถ่ายนักศึกษา คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ เครือข่ายของเขาเริ่มจากนักศึกษาที่ฮาร์วาร์ดและต่อไปยังแสตนฟอร์ด ดาร์ทมัธ โคลัมเบีย นิวยอร์ค คอร์แนลและเยล เพื่อเป็นกลุ่มสังคมในการติดต่อสื่อสารกัน ต่อมาเขาย้ายไปอยู่ที่แคลิฟอร์เนียและเช่าบ้านหลังเล็ก ๆ กับกลุ่มเพื่อนไว้ใช้เป็น ที่ทำงานในช่วงหยุดยาวภาคฤดูร้อน เพื่อพัฒนาโปรแกรมบริการสังคมของเขาพร้อมมีนายทุนชื่อ ปีเตอร์ ไทเอล ช่วยเหลือ ทีแรกในกลุ่มตั้งใจจะกลับไปเรียนต่อที่ฮาร์วาร์ดแต่แล้วก็ตัดสินใจอยู่ต่อที่แคลิฟอร์เนีย จน กระทั่งในวันที่ 24 พฤษภาคม 2550 ซัคเคอร์เบิร์ก ประกาศจัดตั้ง 'เฟซบุ๊ก แพลทฟอร์ม' เพื่อให้คนทั่วไปเข้าร่วมสร้างเครือข่ายเพียงแค่สัปดาห์เดียวก็มีผู้ใช้เป็นล้านคน
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2550 มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็ได้สร้างระบบโฆษณาบนเฟซบุ๊ก เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแบ่งปันข้อมูลในเฟซบุ๊กเพื่อกิจกรรมการซื้อขาย โปรแกรมนี้ชื่อบีคอน (Beacon) แต่มาในช่วงหลังโปรแกรมของเฟซบุ๊กก็ถูกโจมตีมากเพราะไม่สามารถปกป้องความลับส่วนบุคคลได้และก็เป็นเรื่องเป็นราวฟ้องร้องกัน จนกระทั่ง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ต้องออกมาแถลงเพื่อปรับปรุงให้โปรแกรมมีคุณลักษณะที่
สามารถช่วยปกป้องความลับส่วนบุคคลได้ดีขึ้น
เรื่องที่ทำให้ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เกิดปัญหาก็คือ เรื่องที่เพื่อนของเขาในกลุ่ม คอนเนคยู (Connect U) ได้ฟ้องศาลใน ปี 2547 กล่าวหาว่าเขาเอาแนวคิดการสร้างเฟซบุ๊กมาจากกลุ่มนี้ ขณะที่เพื่อนกลุ่มนี้จ้างเขาเขียนโปรแกรมสร้างบริการเครือข่ายสังคมแบบเดียวกัน ในที่สุดคดีจบลงด้วยการที่เฟซบุ๊กยินยอมจ่ายเงินให้ประมาณ 2,000 ล้านบาท ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2551 ปัจจุบันเฟซบุ๊กมีมูลค่า 130,000 ล้านบาท ทำให้เขาซึ่งปัจจุบันอายุเพียง 26 ปี เป็นคนอายุน้อยที่สุดที่รวยที่สุดคนหนึ่ง แต่ในหนังสือเล่มดังกล่าวของเฟซบุ๊กมีเรื่องยืดยาวกว่านี้ ซึ่งบางช่วงบางตอนได้อธิบายว่าเขาเป็นทั้งคนหยิ่งยโสและซื่อใสอยู่ในคนเดียวกัน มักจะมีกิริยาชอบครุ่นคิดถึงแนวคิดอันอุดมสมบูรณ์ แถมพกวาจาที่คมคายคล้ายกับดาบที่กวัดแกว่งทิ่มแทงได้ทุกเมื่อ
วีรจินต์ นาคะนิเวศน์ .........เรียบเรียง
1. ซัคเคอร์เบิร์กมีเพื่อนทั้งหมด 879 คนมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มีลิสต์เพื่อในหน้าเฟซบุ๊คของตัวเองถึง 879 คนโดยเปิดเผยที่อยู่อีเมล์ และเบอร์โทรศัพท์จริงในหน้าข้อมูลผู้ใช้บริการและเลือก Green Day และ Jay-Z เป็นศิลปินโปรด
ส่วนหนังสือที่เขาสนใจเป็นพิเศษก็คือ นิยายไซไฟอย่าง Ender's Game โดย ออร์สัน สก็อตต์การ์ดความสนใจด้านอื่นนอกจากนี้ก็คือ เรื่องการปฏิวัติ การละตัณหาและลัทธิจุลนิยม ซึ่งกล่าวถึงศิลปะของความเรียบง่าย
2. เขามีฉายาว่า “ซัค เดอะ โรบอท”'ซัค' คือชื่อสั้น ๆ ที่เพื่อนของซัคเคอร์เบิร์กชอบเรียกเขาถูกมองว่าเป็น 'พวกไม่ค่อยชอบสุงสิงกับชาวบ้าน ขี้อาย ขี้ขลาด' มีคนเคยบ่นว่าซัคเคอร์เบิร์กเหมือนหุ่นยนต์ 'บางทีเขาชอบพูดเหมือนโปรแกรม Instant Message พูดห้วน ๆ เรียบ ๆ เป็นโทนเดียวกันหมด'
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คนแปลก ๆ อย่างซัคเคอร์เบิร์กก็ยังมีข้อดีอยู่บ้างโดยเพื่อนของเขาคนหนึ่งบอกว่า 'เขาเป็นผู้ฟังที่ตั้งใจฟังมาก ๆ '
3. เขาบอกปัดข้อเสนอของบริษัท AOL และ Microsoftซัคเคอร์เบิร์กเคยออกแบบระบบซอฟท์แวร์ที่ชื่อ ไซแนปส์ ซึ่งไม่ได้แตกต่างไปจาก แพนโดรา ที่มีบริการฟังวิทยุทางอินเตอร์เน็ตที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป หลังจากโปรแกรมไซแนปส์แพร่หลายในโลกอินเตอร์เน็ต และเรื่องไปถึงหูของ AOL และ Micrisoft สองบริษัทนี้ก็แสดงความสนใจ ที่จะจ้างซัคเคอร์เบิร์กขึ้นมาจนตัวสั่น แต่ซัคเคอร์เบิร์กก็ตอบปฏิเสธไปเสียเฉย ๆ และมุ่งหน้าไปเรียนต่อที่ฮาร์วาร์ด
4. เขาเคยบอกว่าพวกที่เล่นเฟซบุ๊ค เป็น 'พวกหน้าโง่'ซัคเคอร์เบิร์กเคยส่งข้อความให้เพื่อนสมัยที่เขายังอยู่ที่ฮาร์วาร์ดและได้กล่าวว่าพวกผู้ ใช้บริการเฟซบุ๊คก้ไม่ต่างอะไรกับพวกหน้าโง่ ซึ่งรายละเอียดนี้เปิดเผยโดยคนในซิลิกอนวัลเลย์เมื่อต้นปีนี้เอง โดยซีอีโอหนุ่มได้บอกว่าเขาเสียใจมากจริง ๆ ที่พิมพ์แบบนั้นออกไป 'ถ้าคุณเป็นถึงผู้สร้างระบบเครือข่ายบริการที่เป็นที่พึ่งของคนหลาย ๆ คน คุณก็ควรจะเป็นผู้ใหญ่พอสมควรแล้ว ถูกไหม? ผมว่าผมโตแล้ว และได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างแล้วล่ะ' ไรอัน เทท ตัวแทนจากเมืองวัลเลย์กล่าว แต่ถามว่าซัคเคอร์เบิร์กได้สำนึกสักนิดหรือเปล่า? คำตอบคือ 'สิ่งที่ผมพูดไปก็ชัดเจนแล้วนี่ ก็เห็นอยู่ว่าพวกเขาชอบละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวกันเป็นว่าเล่น'
5. ทำไมเฟซบุ๊คต้องเป็นสีฟ้า?การตกแต่งภายใจของบ้านซัคเคอร์เบิร์กมักใช้สีน้ำตาลอ่อนหรือไม่ก็สีฟ้า เว้นแต่ในครัวที่เขาใช้สีเหลือง แต่สีสันไม่ได้สำคัญกับซัคเคอร์เบิร์กเท่าใดนัก เพราะเขาตาบอดสี! ซึ่งเป็นประเภทที่แยกความแตกต่างระหว่างสีแดงกับสีเขียวไม่ได้ เขาจึงเลือกสีฟ้าเป็นสีโปรดเพราะ 'สีฟ้าเป็นสีแห่งความมั่งคั่งสำหรับผม ผมมองไปทางไหนก็เห็นแต่สีฟ้า'
หนุ่มอายุเพียง 26 ปี สามารถสร้างบริษัทบริการเครือข่ายสังคมอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้ใช้งานกว่า 500 ล้านคนทั่วโลก มีมูลค่าถึง 130,000 ล้านบาท หนุ่มคนนี้คือ ซีอีโอ หรือผู้บริหารสูงสุดของเฟซบุ๊ก ชื่อ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มาเป็นข่าวดังเร็ว ๆ นี้เอง พร้อมมีการเปิดตัวในหนังสือ ชื่อ ผลกระทบของเฟซบุ๊ก (The Face book Effect) ซึ่งเป็นเรื่องราวภายในเฟซ บุ๊กที่เชื่อมต่อกับโลกได้อย่างไร โดยมีผู้เขียนชื่อ เดวิด เคิร์กเพทริค
เรื่องราวของผู้บุกเบิก หรือ ซีอีโอ เฟซบุ๊ก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก นั้น มีทั้งดี ไม่ดี และมีเรื่องไม่น่าเหมาะสมก็เยอะ ปะปนกันไป ชีวิตจริงของมาร์ค เกิดที่ไวท์เพลนส์ นิวยอร์ก ในครอบครัวชาวยิว หัดเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่อยู่เกรด 6 หรือ ประถมศึกษาปีที่ 6 ชอบเขียน โปรแกรมเพื่อการสื่อสารและเล่นเกม ชอบเรียนภาษาลาติน เขาสามารถเขียนโปรแกรมเล่นเกมที่ชื่อ ริสก์ และเครื่องเล่นดนตรี ชื่อ ไซแนพส์ (Synapse) โดยใช้ความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ ตั้งแต่ยังไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัย บริษัทไมโครซอฟท์และเอโอแอล พยายามที่จะซื้อ ไซแนพส์ และรับ ซัคเคอร์เบิร์ก เข้าทำงาน แต่เขาตัดสินใจเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดก่อน
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เริ่มโครงการเฟซบุ๊กช่วงที่อยู่หอพักของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2547 ซึ่งได้ชื่อมาจากหนังสือชื่อ 'เฟซบุ๊ก' เป็นที่รวบรวมรายชื่อของเพื่อนเก่าที่ฟิลิปส์ เอ๊กสเตอร์ อะคาเดมี่ ซึ่งมีรูปถ่ายนักศึกษา คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ เครือข่ายของเขาเริ่มจากนักศึกษาที่ฮาร์วาร์ดและต่อไปยังแสตนฟอร์ด ดาร์ทมัธ โคลัมเบีย นิวยอร์ค คอร์แนลและเยล เพื่อเป็นกลุ่มสังคมในการติดต่อสื่อสารกัน ต่อมาเขาย้ายไปอยู่ที่แคลิฟอร์เนียและเช่าบ้านหลังเล็ก ๆ กับกลุ่มเพื่อนไว้ใช้เป็น ที่ทำงานในช่วงหยุดยาวภาคฤดูร้อน เพื่อพัฒนาโปรแกรมบริการสังคมของเขาพร้อมมีนายทุนชื่อ ปีเตอร์ ไทเอล ช่วยเหลือ ทีแรกในกลุ่มตั้งใจจะกลับไปเรียนต่อที่ฮาร์วาร์ดแต่แล้วก็ตัดสินใจอยู่ต่อที่แคลิฟอร์เนีย จน กระทั่งในวันที่ 24 พฤษภาคม 2550 ซัคเคอร์เบิร์ก ประกาศจัดตั้ง 'เฟซบุ๊ก แพลทฟอร์ม' เพื่อให้คนทั่วไปเข้าร่วมสร้างเครือข่ายเพียงแค่สัปดาห์เดียวก็มีผู้ใช้เป็นล้านคน
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2550 มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็ได้สร้างระบบโฆษณาบนเฟซบุ๊ก เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแบ่งปันข้อมูลในเฟซบุ๊กเพื่อกิจกรรมการซื้อขาย โปรแกรมนี้ชื่อบีคอน (Beacon) แต่มาในช่วงหลังโปรแกรมของเฟซบุ๊กก็ถูกโจมตีมากเพราะไม่สามารถปกป้องความลับส่วนบุคคลได้และก็เป็นเรื่องเป็นราวฟ้องร้องกัน จนกระทั่ง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ต้องออกมาแถลงเพื่อปรับปรุงให้โปรแกรมมีคุณลักษณะที่
สามารถช่วยปกป้องความลับส่วนบุคคลได้ดีขึ้น
เรื่องที่ทำให้ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เกิดปัญหาก็คือ เรื่องที่เพื่อนของเขาในกลุ่ม คอนเนคยู (Connect U) ได้ฟ้องศาลใน ปี 2547 กล่าวหาว่าเขาเอาแนวคิดการสร้างเฟซบุ๊กมาจากกลุ่มนี้ ขณะที่เพื่อนกลุ่มนี้จ้างเขาเขียนโปรแกรมสร้างบริการเครือข่ายสังคมแบบเดียวกัน ในที่สุดคดีจบลงด้วยการที่เฟซบุ๊กยินยอมจ่ายเงินให้ประมาณ 2,000 ล้านบาท ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2551 ปัจจุบันเฟซบุ๊กมีมูลค่า 130,000 ล้านบาท ทำให้เขาซึ่งปัจจุบันอายุเพียง 26 ปี เป็นคนอายุน้อยที่สุดที่รวยที่สุดคนหนึ่ง แต่ในหนังสือเล่มดังกล่าวของเฟซบุ๊กมีเรื่องยืดยาวกว่านี้ ซึ่งบางช่วงบางตอนได้อธิบายว่าเขาเป็นทั้งคนหยิ่งยโสและซื่อใสอยู่ในคนเดียวกัน มักจะมีกิริยาชอบครุ่นคิดถึงแนวคิดอันอุดมสมบูรณ์ แถมพกวาจาที่คมคายคล้ายกับดาบที่กวัดแกว่งทิ่มแทงได้ทุกเมื่อ
วีรจินต์ นาคะนิเวศน์ .........เรียบเรียง
